Wednesday, November 28, 2007

สุดยอดรถ

“บูกัตติ เวย์รอน” (Bugatti Veyron) ซูเปอร์คาร์ที่เมื่อปีที่ผ่านมาได้ชื่อว่า เป็นสปอร์ตโปรดักชั่นคาร์ที่เร็วที่สุด แรงที่สุด และแพงที่สุดในโลก!!
ด้วยสถิติความเร็ว 20 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 420.25 กิโลเมตร/ชั่วโมง รีดกำลังออกมาได้ 1,001 แรงม้า และมีราคาสูงถึง 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เพียงแต่มาเมื่อไม่นานเพิ่งถูกคู่แข่ง “ลัมโบกินี เรเวนตัน” เบียดแซงไปในเรื่องของเฉพาะราคาแล้ว ที่ระดับ 1 ล้านยูโร อย่างไรก็ตามสำหรับเมืองไทย การที่บูกัตติ เวย์รอน ได้มาเผยโฉมและเปิดให้เศรษฐีโคตะระกระเป๋าหนักได้จับจองเป็นเจ้าของ ถือเป็นสิ่งที่ไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ในเมืองไทย จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ยกให้เป็นสุดยอดของรถที่อยู่บนผืนแผ่นดินไทยขณะนี้

บูกัตติ เวย์รอน ที่ค่ายเอส.อี.ซี.กรุ๊ปนำมาเผยโฉมครั้งแรก และเปิดให้ผู้สนใจจับจองเป็นเจ้าของในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2007 นี้ เคาะราคาออกมาสำหรับจำหน่ายในเมืองไทย ตกอยู่ที่คันละ 165 ล้านบาท!!! นับเป็นรถยนต์แพงที่สุดในเมืองไทย เพราะเมื่อหลายปีก่อนคนไทยได้มีโอกาสสัมผัสสุดยอดรถหรู “มายบัค” ราคาสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาทนิดๆ ซึ่งขณะนั้นถือว่าสูงสุดในเมืองไทยแล้ว แต่เมื่อมาเจอราคาของเจ้า บูกัตติ เวย์รอน ย่อมถูกเขี่ยตกบัลลังก์รถที่แพงที่สุดไป


ภายในห้องโดยสารที่โอ่โถง และมีการตัดเย็บอย่างประณีตชนิดที่หายากมากในกลุ่มของผู้ผลิตซูเปอร์คาร์ ขณะที่เครื่องยนต์แบบ ดับเบิลยู16 สูบ ขนาด 8,000 ซีซี และใช้เทอร์โบถึง 4 ตัวในการรีดกำลังออกมาได้ 1,001 แรงม้า (หรือ 987 แรงม้าสำหรับสเปกอเมริกา) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 127.3 กก.-ม. ที่ 2,200-5,500 รอบ/นาที สู่การขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อด้วยเกียร์แบบดีเอสจี เป็นเกียร์ธรรมดาแบบใช้คลัตช์ไฟฟ้า 7 จังหวะรุ่นใหม่ที่พัฒนามาเพื่อบูกัตตี้โดยเฉพาะ
ไม่ใช่แค่ตัวเลขแรงม้าและแรงบิดเท่านั้นที่น่าทึ่ง สมรรถนะที่ได้จากซูเปอร์คาร์รุ่นนี้ไม่ธรรมดา จาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 2.5 วินาที และความเร็วสูงสุด 250 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 402.25 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่นั่นก็ยังไม่น่าทึ่งเท่ากับยางรุ่นพิเศษ ที่ผลิตมาเพื่อเวย์รอนโดยเฉพาะ สำหรับรองรับกับสมรรถนะที่เกิน 400 กิโลเมตร และมีเทคโนโลยี Pax System ติดมาให้ด้วย (ยังสามารถแล่นได้แม้ยางแบน) ด้านหน้ามีขนาด 245/690R520 และด้านหลังขนาด 335/710R540 ซึ่งปกติแล้วยางที่มีอยู่ในตลาดระดับความเร็วสูงสุดที่รองรับได้ไม่เกิน 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ระบบช่วงล่างเป็นแบบปีกนก 2 ชั้น และใช้ระบบควบคุมการทำงานด้วยอิเล็กทรอนิกส์ โดยเมื่อความเร็วสูงกว่า 135 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 217 กิโลเมตร/ชั่วโมง (หรือว่าผู้ขับขี่กดปุ่มเลือกเองผ่านทางแผงคอนโซลกลาง) ความสูงจะลดลงโดยด้านหน้าจะมีพื้นที่ว่างใต้ท้องรถ 3.14 นิ้ว และด้านหลัง 3.7 นิ้ว เพื่อเพิ่มการทรงตัว โดยที่สปอยเลอร์หลังจะปรับระดับมุมองศาเองโดยอัตโนมัติระหว่าง 6-26 องศาเพื่อสร้างแรงกดที่ด้านท้ายในการทำให้ตัวรถนิ่งเมื่ออยู่ในช่วงความเร็วสูง




No comments: